วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย

วันจันทร์ ที่ 4 กรกฎาคม 2554
Posted by mata , ผู้อ่าน : 698 , 07:08:17 น.  
หมวด : ตำรวจ-อาชญกรรม

พิมพ์หน้านี้
โหวต 0 คน

เค้า และวี่แววของนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทยเริ่มมาตั้งแต่การได้หมายเลข 1
เป็นเรื่องจริง ที่หากดวงไม่แข็ง เข้าขั้นแล้ว การจับได้หมายเลข 1  
ไม่ใช่ฟลุก หรือเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่เป็นสองรองใคร
และการปรากฎตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เปิดเผย
ปรากฎตัวไม่นานสักเท่าไร
เหมือนนักชกหน้าใหม่ทางการเมือง  ที่เข้ามาประชันด้วย
และ อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ก็ส่อแววลดระดับความนิยมลง
โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า " ดีแต่พูด" คำ ๆ นี้ ไม่มีใครชอบครับ มันกินใจจริง ๆ
ก็ขอแสดงความยินดีด้วย ครับ และยอมรับในการตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่
สำหรับในวงการตำรวจ เฉพาะตำรวจนะครับ ไม่เกี่ยวกับฝ่ายปกครอง หรือหน่วยงานอื่น ๆ
ก็เตรียมตัวเตรียมใจ เก็บข้าวของ เครื่องใช้ ในการเดินทางไกล หรือกลับบ้านพัก
มาทางไหน? สายไหน? ก็ไปทางนั้น
โดยเฉพาะตำแหน่งหลัก ใหญ่ ๆ ลงมา ใครเป็นใคร ก็คงรู้กันเร็ว ๆ นี้
รัฐบาล มาจากพรรคไหน? ไม่สำคัญ หากทำดี ก็อยู่ได้นาน ครับ
ช่างบังเอิญ การแต่งตั้งโยกย้ายนายพลตำรวจ
เข้าสู่ฤดูกาลพอดิบพอดี เดือนสิงหาคม 2554  เดือนเดียว ครับ

ชูวิทย์” มาแล้ว!! เปิดตัวพรรครักประเทศไทย พรุ่งนี้ เน้นนโยบายตรวจสอบรัฐหน้า

ชูวิทย์” มาแล้ว!! เปิดตัวพรรครักประเทศไทย พรุ่งนี้ เน้นนโยบายตรวจสอบรัฐหน้า

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สุนทรภู่

สุนทรภู่

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สุนทรภู่
Poo-2.jpg
รูปปั้น สุนทรภู่ ที่อนุสาวรีย์สุนทรภู่ จ.ระยอง
เกิด:26 มิถุนายน พ.ศ. 2329
เขตพระราชวังหลัง
กรุงรัตนโกสินทร์
ถึงแก่กรรม:พ.ศ. 2398
เขตพระราชวังเดิม
กรุงรัตนโกสินทร์
อาชีพ:กวี
สัญชาติ:ไทย
ช่วงเวลาในการเขียน:ต้นรัตนโกสินทร์
แนวทางการเขียน:แฟนตาซี, อิงประวัติศาสตร์
หัวข้อ:กวีนิพนธ์
ผลงานครั้งแรก:โคบุตร
ผลงานสำคัญ:พระอภัยมณี
พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทรภู่ (26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 - พ.ศ. 2398) เป็นกวีชาวไทยที่มีชื่อเสียง ได้รับยกย่องเป็น เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย[1] เกิดหลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 ปี และได้เข้ารับราชการเป็นกวีราชสำนักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อสิ้นรัชกาลได้ออกบวชเป็นเวลาร่วม 20 ปี ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครั้งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเป็นอาลักษณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร ซึ่งเป็นตำแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต
สุนทรภู่เป็นกวีที่มีความชำนาญทางด้านกลอน ได้สร้างขนบการประพันธ์กลอนนิทานและกลอนนิราศขึ้นใหม่จนกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางสืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่มีมากมายหลายเรื่อง เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศสุพรรณ เพลงยาวถวายโอวาท กาพย์พระไชยสุริยา และ พระอภัยมณี เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่อง พระอภัยมณี ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของวรรณคดีประเภทกลอนนิทาน และเป็นผลงานที่แสดงถึงทักษะ ความรู้ และทัศนะของสุนทรภู่อย่างมากที่สุด งานประพันธ์หลายชิ้นของสุนทรภู่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอนนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เช่น กาพย์พระไชยสุริยา นิราศพระบาท และอีกหลายๆ ส่วนในเรื่อง พระอภัยมณี
ปี พ.ศ. 2529 ในโอกาสครบรอบ 200 ปีชาตกาล สุนทรภู่ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม ผลงานของสุนทรภู่ยังเป็นที่นิยมในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมาไม่ขาดสาย และมีการนำไปดัดแปลงเป็นสื่อต่างๆ เช่น หนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไว้ที่ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง บ้านเกิดของบิดาของสุนทรภู่ และเป็นกำเนิดผลงานนิราศเรื่องแรกของท่านคือ นิราศเมืองแกลง นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์แห่งอื่นๆ อีก เช่น ที่วัดศรีสุดาราม ที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดนครปฐม วันเกิดของสุนทรภู่คือวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็น วันสุนทรภู่ ซึ่งเป็นวันสำคัญด้านวรรณกรรมของไทย มีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณและส่งเสริมศิลปะการประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่างๆ โดยทั่วไป

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

The Legend of MuayThai


Famous Muay Thai Boxers

Phraya Phichai

Muay Thai is a national sport of Thailand as well as a national passion. Known as the science of eight limbs Muay Thai kickboxing uses the knees and elbows as well as kicks and punches.
Phraya Phichai
Phraya Phichai (th: พระยาพิชัย), or popularly known as Phraya Phichai Dap Hak (th:พระยาพิชัยดาบหัก; Phraya Phichai of the broken sword) (born: 1741 at Ban Huai Kha,Amphoe Phichai, Changwat Uttaradit; died: unknown) was a historic Thai nobleman inAyutthaya Period who fought the battles with two swords in both hands until one of which was broken

Phraya Phichai was a Siamese general serving under King Taksin. After the fall ofAyudhya in 1767, Phraya Pichai and Chao Phraya Chakri (who later become the first King of Chakri Dynasty) followed Phraya Taksin in repelling the Burmese and reuniting Siam. They were considered Phraya Taksin's left and right hands.
In 1782, King Taksin showed signs of mental illness. At that time, the nation still lacked stability and was in need of a strong ruler. A coup executed King Taksin, then the throne was offered to Chao Phraya Chakri. Phraya Pichai, a devout follower of King Taksin, was not spared, and by most account, requested for his own execution to follow King Taksin to his death. He was executed soon after.
He gained the name 'Phraya Phichai Dabhak' or 'Phraya Pichai Broken Sword' in a battle in which he kept fighting (and won) even after one of his blades was broken in half.
Birth
Phraya Phichai was born in 1741 at Ban Huai Kha, Amphoe Phichai, Changwat Uttaradit, having four brothers and sisters but three of them died before Phichai”s birth. His parents were unknown. His birthname was Choi (th: จ้อย; means: the little one).

Childhood


When Choi was a young boy, he loved to practice Thai boxing and would always be running away without his parents knowing, to train in the art. He trained with many teachers of that time.
One day, Choi left home northernwards and met with a boxing instructor named “Thiang” (th: เที่ยง) at Wat Ban Kaeng (th: วัดบ้านแก่ง). Choi then became a beloved student of Instructor Thiang and renamed as “Thong Di” (th: ทองดี), his instructor called him as “Mister Thong Di Fan Khao” (th: ทองดีฟันขาว; means: Thong Di whose teeth are white) as he did not chew betel nut. The Thai people loved chewing betel nut, which made their teeth black, since the ancient time until the Government under the premiership of Field Marshall Plaek Phibunsongkhramissued ban on chewing the nut in 1942.

Serving the Crown

One day, Phraya Tak was holding a boxing contest in the city of Tak during a traditional festival. Now a young man of twenty years, Thong Di asked the ring master to find him a match. The towns people having never seen the boxer before suggested that he take an opponent who had little experience so that it would make an exciting fight, but Thong Di insisted that he would fight the most skillful boxer in the town.
A famous boxing master of Tak, Arjarn Nai Hao, who nobody dared to challenge, gladly agreed to take the fight, knowing that those who had challenged the master before had been soundly and thoroughly beaten, why should this young upstart be any different? A huge crowd gathered to see the young boxer Thong Di fight the invincible Nai Hao.Throughout the bout Thong Di showed brilliant Thai boxing style.
Seeing a resounding victory over Nai Hao after witnessing such a formidable display, Phraya Tak showed no hesitation in asking Thong Di to join his army. On many occasions, Thong Di would display his talents in the Thai boxing ring before Phraya Tak (later to become King Taksin the great of Thonburi). His skill and bravery in the ring and the fact that no other boxer could defeat Thong Di, were very pleasing to Phraya Tak who appointed him to be his personal bodyguard.
The Emperor of China Kao Tsung, was alarmed by the military might of the Burmese. From 1766- 1769, the Emperor sent his armies four times to subdue the Burmese, but all four invasions failed. Siam was under the control of the Burmese since the sacking of Ayutthaya, but had to withdraw the bulk of its army from Siam to ward of the Chinese invasions, leaving behind only a small contingent. Phraya Tak taking advantage of the situation, organized his force and revolted.
Phraya Tak; At first was a guerrilla leader with only five hundred followers but within fifteen years his dominion was to embrace all of Siam. During the revolt Taksin managed to escape to Rayong on the East coast of Siam. Here with the help of Phraya Phichai, now his Commander-in-Chief, raised an army and declared all out war on Burma. The action was to eventually regain freedom for the Siamese people.
Phraya Phichai or (Thong Di), under the guidance of Phraya Tak and using guerrilla tactics, won back many small towns and villages from the Burmese. It was during one of the many battles, that Thong Di was to become famous. In 1773 an army under celebrated Burmese General Bo Supia was sent to capture the City of Phichai. Thong Di led the Thai army and fought him at Wat Aka and Phraya Sura Sri helped him battle the Burmese. The Burmese general was driven into retreat while sustaining great losses to his troops.